เวลาที่เสียไปคือ ต้นทุนค่าเสียโอกาส ที่หลายคนมองข้าม
ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่าง การลงทุนในหุ้นกู้ ที่เรามักจะเห็นจังหวะที่ทำให้เกิดค่าเสียโอกาส เช่น

- รอจองซื้อหุ้นกู้ออกใหม่ โดยไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่
- ได้หุ้นกู้มาแล้ว ก็ต้องรอครบกำหนด เพราะไม่รู้ว่าขายได้ แม้จะเห็นโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ ที่ดีกว่า

รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ นักลงทุนเสียโอกาส เช่นนี้
อาจเป็นเพราะหลายคนยังไม่รู้ว่า ปัจจุบันมี “หุ้นกู้ตลาดรอง” หรือ “Secondary Bond”
ที่สามารถเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรและหุ้นกู้คุณภาพดี แถมยังซื้อขายกันได้ทุกวัน

โดยหนึ่งในผู้นำของหุ้นกู้ตลาดรองสำหรับลูกค้ารายย่อย
ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 42% ก็คือ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย
(ในช่วง ม.ค. – ก.ค. 2565)

ความน่าสนใจของ หุ้นกู้ตลาดรอง คืออะไร ?
แล้วอะไรทำให้ หุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีส่วนแบ่งตลาดสูงเช่นนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..

จุดเด่นที่ทำให้ใครหลายคนเลือกลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้
คือ ผลตอบแทนสม่ำเสมอในรูปของ “ดอกเบี้ย” ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
และเมื่อครบกำหนดอายุ จะได้รับ “เงินต้น” คืนกลับมา

ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน เรากำลังอยู่ในช่วงภาวะเงินเฟ้อ..

อัตราเงินเฟ้อ ทำให้สินค้าต่าง ๆ รอบตัวเรา มีราคาแพงขึ้น
แต่หลายคนก็น่าจะสังเกตเห็น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย กำลังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้ ดอกเบี้ย ที่ได้รับจากการลงทุนพันธบัตรหรือหุ้นกู้ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

- เดือนธันวาคม ปี 2564 ดอกเบี้ยนโยบาย 0.50%, ดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปี 1.90%

- เดือนสิงหาคม ปี 2565 ดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% (ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก) , ดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปี 2.48%

- เดือนกันยายน ปี 2565 ดอกเบี้ยนโยบาย 1.00% (ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่สอง), ดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปี 3.30%

หากใครที่มีเงินออมในรูปของเงินฝากธนาคาร
ต้องยอมรับว่า ดอกเบี้ยเงินฝาก คงตามอัตราเงินเฟ้อไม่ทัน
ช่วงเวลานี้ หลายคนมองหาช่องทางการลงทุนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่า
จึงเป็นโอกาสที่เราสามารถ “เปลี่ยนเงินเฟ้อ เป็นเงินเพิ่ม” ได้ง่าย ๆ ด้วยพันธบัตรหรือหุ้นกู้คุณภาพดี

อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นกู้เอกชนจะเติบโตกว่า 4 เท่าตัว
จากปี 2554 ที่มีมูลค่า 212,000 ล้านบาท ไปสู่ปี 2564 ที่มีมูลค่า 1,035,614 ล้านบาท
แต่ถ้าหักจำนวนเงินที่ครบกำหนด จะคงเหลือมูลค่าหุ้นกู้ออกใหม่เพียง 337,041 ล้านบาท เท่านั้น
ซึ่งไม่เพียงพอ เมื่อเปรียบเทียบกับเงินฝากของลูกค้าบุคคลในระบบธนาคาร ที่ยังมีมากกว่า 8 ล้านล้านบาท
(ที่มา : ThaiBMA , ธนาคารแห่งประเทศไทย ,)

พอเป็นแบบนี้ หุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ช่วยให้พันธบัตรหรือหุ้นกู้มีเสน่ห์ครบทุกมิติ เพราะสามารถซื้อขายได้ง่าย
เพิ่มโอกาสในการลงทุน โดยไม่ต้องรออีกต่อไป

แล้วหุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีความน่าสนใจ อย่างไร ?

หุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ให้บริการแบบ One Stop Service สำหรับนักลงทุนรายย่อย

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ นักลงทุนที่ต้องการจะขายพันธบัตรหรือหุ้นกู้ สามารถขายได้ ไม่ต้องรอครบกำหนด
ส่วนนักลงทุนที่ต้องการจะซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้ ก็สามารถซื้อได้ทุกวัน ไม่ต้องรอหุ้นกู้ออกใหม่

รู้หรือไม่ว่า การซื้อ-ขายตราสารหนี้ของลูกค้ารายย่อย กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ปี 2563 มูลค่าการซื้อ-ขาย 20,947 ล้านบาท
ปี 2564 มูลค่าการซื้อ-ขาย 24,118 ล้านบาท
ปี 2565 (เดือนม.ค.-ก.ค.) มูลค่าการซื้อ-ขาย 29,727 ล้านบาท
(ที่มา : ThaiBMA)

หุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 42%
และการที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สามารถครองใจ นักลงทุนรายย่อยได้สำเร็จ
ก็เกิดจากความมุ่งมั่นในการส่งต่อคุณค่าให้กับลูกค้า ครบทั้ง 3 ด้าน

1. หุ้นกู้ดีดี มีได้ทุกวัน พร้อมวิ่งรับดอกเบี้ยได้ทันที
โดย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย คัดสรรพันธบัตรหรือหุ้นกู้คุณภาพดี มาให้เลือกอย่างหลากหลายในทุก ๆ วัน

2. หุ้นกู้ขายง่าย ส่งต่อเปลี่ยนมือง่าย ๆ ไม่ต้องรอ
โดย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย รับซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้คุณภาพดี ด้วยราคาตลาดที่เหมาะสม
โอกาสเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตการลงทุน และออกแบบวันครบกำหนดได้ด้วยตนเอง

3. หุ้นกู้ ซื้อได้ ขายง่าย พร้อมโค้ชผู้เชี่ยวชาญ
โดย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาทุกสาขาของธนาคาร
เพื่อตอบโจทย์การลงทุนรายบุคคล พร้อมลงทุนได้อย่างมั่นใจ

ที่น่าสนใจคือ หุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ยังการันตีความสำเร็จด้วย 5 รางวัล จากงาน ThaiBMA Best Bond Awards 2021 คือ

- รางวัล Best Bond Dealer
จากเสียงโหวตของสถาบันการเงิน เป็นรางวัลยอดเยี่ยมสำหรับสถาบันการเงินผู้ค้าตราสารหนี้

- รางวัล Most Active Bank in Corporate Bond Secondary Market
จากการเป็นผู้ส่งเสริมให้เกิดสภาพคล่องของหุ้นกู้ภาคเอกชนในตลาดรองให้ลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งสถาบันการเงิน นิติบุคคลและรายย่อย

- รางวัล Best Secondary Market Contributor จากกระทรวงการคลัง
มอบให้สถาบันการเงินที่มีสัดส่วนมูลค่าธุรกรรมซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลสูงสุดในตลาดรอง

- รางวัล Best Outright Primary Dealer
จากการเป็นสถาบันการเงินคู่ค้า e-Outright ของ ธปท. ที่สนับสนุน นโยบายการเงินผ่านธุรกรรมซื้อขายพันธบัตรกับ ธปท.
และส่งเสริมสภาพคล่องในตลาดพันธบัตรไทย

- รางวัล Best THOR Derivatives Desk
จากการร่วมพัฒนาตลาดอนุพันธ์อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR

ถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่า “หุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย” คือคำตอบอันดับต้น ๆ ของการลงทุนพันธบัตรหรือหุ้นกู้ ซื้อได้ ขายง่าย

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา หรือ Line : @Cimbthaiwealth
รวมทั้งช่องทาง url : https://wealth.cimbthai.com และ Care Center 02-626-7888

คำเตือน : นักลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (พันธบัตร/หุ้นกู้) เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

References
-เอกสารประชาสัมพันธ์ หุ้นกู้ตลาดรอง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย