การเงินของคุณอยู่ในระดับที่ ”ดี”
หากอยากรู้ว่าด้านใดคือสิ่งที่ดีแล้ว และสิ่งใดที่ควรปรับปรุง เพื่อให้สุขภาพทางการเงินของคุณแข็งแรงยิ่งขึ้น ลองไปดูผลวิเคราะห์แยกส่วนกันเลยดีกว่า หากอยากรู้ว่าด้านใดคือสิ่งที่ดีแล้ว และสิ่งใดที่ควรปรับปรุง เพื่อให้สุขภาพทางการเงินของคุณแข็งแรงยิ่งขึ้น
วิเคราะห์สภาพคล่อง
|
|||
---|---|---|---|
อัตราส่วนสภาพคล่อง
(Liquidity Ratio)
การประเมินความสามารถในการปิดหนี้ระยะสั้นทั้งหมด ด้วยสินทรัพย์สภาพคล่อง (เงินสด หรือเงินฝาก) ที่มีอยู่ โดยผู้ที่มีอัตราส่วนสภาพคล่องมากกว่า 1 นั้นบ่งบอกว่า มีเงินสดเพียงพอที่จะปิดหนี้ระยะสั้นได้หมดทันที
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย ค่าอัตราส่วนสภาพคล่องน้อยกว่า 1 บ่งชี้ว่าคุณมีการสำรองเงินสด หรือเงินฝาก น้อยเกินไป หรือ ภาระหนี้ระยะสั้นมากเกินอำนาจในการชำระเงิน อัตราส่วนสภาพคล่องพื้นฐาน หรือ อัตรส่วนค่าใช้จ่ายประจำวัน (Basic Liquidity Ratio) การประเมินความสามารถในการดำรงชีวิตในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินไม่สามารถหารายได้ได้ และสามารถใช้สินทรัพย์ที่เป็นเงินสดหรือเงินฝาก ในการใช้ชีวิตต่อไปได้ ควรมีค่าไม่น้อยกว่า 3 เดือน หรือสามารถใช้เงินสดที่มีชำระค่าใช้จ่ายต่อไปได้อีกอย่างน้อย 3 เดือน และค่าที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน หรือมากกว่านั้น แล้วแต่ความผันผวนของค่าใช้จ่ายของแต่ละบุคคล
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย มีเงินสดสำรองน้อยเกินไป อาจจะมีปัญหาได้หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เงิน ควรสำรองเงินสดเพิ่มขึ้น อัตราส่วนสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่อความมั่งคั่งสุทธิ (Liquid Assets to Net Worth Ratio) ค่าที่บอกว่าหากนำสินทรัพย์ที่เหลือจากการชำระหนี้ทั้งหมดมาคำนวณ จะมีปริมาณเงินสด/เงินฝากอยู่เท่าใด โดยค่าที่เหมาะสมคือ ควรมีสัดส่วนของเงินสด/เงินฝาก ที่เป็นสินทรัพย์สภาพคล่องอยู่ไม่น้อยกว่า 15%
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย มีสัดส่วนของเงินสดอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่หากมีสูงเกินไป อาจจะพิจารณาโยกเงินสดบางส่วนไปลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นได้ (ให้พิจารณาควบคู่กับอัตราส่วนสภาพคล่องพื้นฐาน) |
วิเคราะห์หนี้สิน
|
|||
---|---|---|---|
อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ (Debt to Asset Ratio)
ไม่ควรมีค่าสูงกว่า 50% เนื่องจากหากค่าหนี้มีค่าสูง จะบ่งบอกว่าบุคคลดังกล่าวอาจจะมีสินทรัพย์ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้สินได้หมดในอนาคต
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย มีสัดส่วนหนี้สินอยู่สูงกว่าสินทรัพย์ ซึ่งอาจจะเกิดความเสี่ยงในการชำระหนี้สินได้ หากเกิดปัญหาด้านสภาพคล่องหรือการขาดรายได้ อัตราส่วนแสดงความสามารถในการชำระคืนหนี้ทั้งหมด (Solvency Ratio) การประเมินความสามารถในการดำรงชีวิตในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินไม่สามารถหารายได้ได้ และสามารถใช้สินทรัพย์ที่เป็นเงินสดหรือเงินฝาก ในการใช้ชีวิตต่อไปได้ ควรมีค่าไม่น้อยกว่า 3 เดือน หรือสามารถใช้เงินสดที่มีชำระค่าใช้จ่ายต่อไปได้อีกอย่างน้อย 3 เดือน และค่าที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน หรือมากกว่านั้น แล้วแต่ความผันผวนของค่าใช้จ่ายของแต่ละบุคคล
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย มีความมั่งคั่งสุทธิในสัดส่วนที่สูง ถือว่าเป็นผู้ที่มีความมั่นคงทางการเงิน เพราะสามารถจัดการกับภาระหนี้ได้ด้วยสินทรัพย์ที่มีอยู่ อัตราส่วนแสดงการชำระคืนหนี้สินจากรายได้ (Debt Service Ratio) เป็นอัตราส่วนที่สำคัญที่มักจะถูกใช้ในการประเมินความสามารถในการชำระคืนหนี้สินได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประเมินว่าจะให้กู้เงินได้หรือไม่ โดยค่าที่บ่งบอกว่า เป็นคนที่มีสุขภาพการเงินดี มีโอกาสชำระหนี้คืนได้สูงจะอยู่ไม่เกิน 35% แต่หากมีว่าสูงกว่า 45% ขึ้นไป จะถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงที่จะชำระหนี้ไม่ได้ หรือไม่มีความมั่นคงทางการเงิน
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย มีภาระหนี้ต่ำ มีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาทางการเงินต่ำ และสามารถพิจารณาในการขอสินเชื่อได้อยู่ อัตราส่วนแสดงการชำระคืนหนี้สินที่ไม่ใช่การจดจำนองจากรายได้ (Non-Mortgage Service Ratio) เป็นค่าที่พิจารณาว่ามีภาระการชำระคืนหนี้สินอื่นๆที่ไม่ใช่หนี้สินของอสังหาริมทรัพย์มากเกินไปหรือไม่ ซึ่งไม่ควรมีภาระการชำระหนี้หนี้สิน อื่นๆเกินกว่า 20% ของรายได้
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย ถือว่ามีภาระหนี้อยู่ในสัดส่วนที่น้อย เป็นคนที่มีความมั่นคงทางการเงินอยู่ในระดับที่ดี |
วิเคราะห์การออมและการลงทุน
|
|||
---|---|---|---|
อัตราส่วนการออม (Savings Ratio)
เป็นค่าที่คำนวณว่า ปัจจุบันมีการออมเงินเป็นสัดส่วนเงินเท่าใดของรายได้ ซึ่งค่าที่แนะนำและควรจะทำให้ได้คือ ออมเงินไม่น้อยกว่า 10% ของรายได้
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย มีสัดส่วนเงินออมต่อรายได้ต่ำเกินไป ควรบริหารจัดการรายจ่าย เพื่อเพิ่มอัตราส่วนเงินออมให้มากขึ้น อัตราส่วนการลงทุน (Net Investment Assets to Net Worth Ratio) อัตราส่วนการลงทุน จะประเมินว่า ในความมั่งคั่งสุทธิ (Net Worth) ที่มีอยู่นั้น มีสัดส่วนของเงินที่เป็นการลงทุนอยู่เท่าใด ซึ่งหากใครที่มีค่าเกินกว่า 50% จะถือว่าเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงิน ค่านี้อาจจะมีน้อยในคนอายุน้อยหรือเริ่มทำงานใหม่ และค่อยๆเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
Benchmark
คะแนนเฉลี่ย
คำอธิบาย มีสัดส่วนของเงินลงทุนอยู่น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่หากว่าอายุยังน้อยอยู่ในช่วงสร้างตัว ให้ค่อยๆทยอยสะสมสินทรัพย์ลงทุนเพิ่มขึ้น |
ที่ปรึกษาส่วนตัวด้านการลงทุน เพิ่มโอกาสให้คุณไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้เร็วกว่า ด้วยคำแนะนำที่ใช่คุณ